Solar Charger คืออะไร ?
โซล่าชาร์จเจอร์มีหน้าที่คือควบคุมการชาร์จไฟฟ้าที่ได้รับจากแผงมาจัดเก็บในแบตเตอรี่อย่างเหมาะสมและทำหน้าที่คอยควบคุมการจ่ายไฟให้กับโหลดไฟฟ้า เพื่อป้องกันความเสียหายจาก overcharging โดยแบตเตอรี่ต้องการแรงดันไฟฟ้าเพื่อชาร์จเต็มที่ 14-14.5V.
Solar Charger มีกี่ประเภท ?
Solar Charger สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.ชาร์จเจอร์ PWM (Pulse Width Modulation)
จะควบคุมความถี่ของคลื่นไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ให้คงที่ด้วยระบบดิจิทัลเพื่อให้ประหยัดพลังงานและสามารถควบคุมการประจุไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดีทำให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมเร็ว มีฟังก์ชั่นไฟแสดงสถานะการทำงานที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ระดับการเก็บประจุของแบตเตอรี่ การจ่ายไฟ DC ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าDC ที่กำลังต่อเชื่อมวงจร มีระบบการตัดไฟอัตโนมัติในกรณีไฟแบตเตอรี่ใกล้หมด เพื่อป้องกันแบตเตอรี่เสีย

2. ชาร์จเจอร์ MPPT (Maximum Power Point Tracking)
มีระบบไมโครโพรเซสเซอร์ หรือตัวจับสัญญาณที่คอยควบคุมดูแลสัญญาณไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์และจะเปรียบเทียบกับแรงดันกระแสในแบตเตอรี่ และเลือกสัญญาณไฟฟ้าที่สูงที่สุดจากแผงเพื่อประจุลงในแบตเตอรี่ให้เต็มที่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงหมดห่วงเมื่อใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ ในขณะที่สภาพแสงแดดภายนอกไม่คงที่ เช่น มีแสงแดดอ่อนๆในช่วงเช้า - ช่วงเย็น หรือตอนครึ้มๆ ก่อน - หลังฝนตก
แล้วเราควรใช้แบบไหน ?
1. คอนโทรลชาร์จเจอร์แบบ pwm เหมาะกับระบบโซล่าเซลล์แบบออฟกริด (off grid solar system) ที่กระแสไฟฟ้าไม่มาก และต้องเป็นนระบบออฟกริดขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ส่วนราคาคอนโทรลชาร์จเจอร์ pwm จะถูกกว่าคอนโทรลชาร์จเจอร์ mppt มาก
2. คอนโทรลชาร์จเจอร์แบบ mppt เหมาะกับระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด (on grid solar system) และระบบโซล่าเซลล์แบบไฮบริด (Hybrid solar system) เพราะโซล่าชาร์จเจอร์ mppt มีประสิทธิภาพในการควบคุมการชาร์จไฟมากกว่าระบบโซล่าชาร์จเจอร์ pwm ถึง 30% จึงเหมาะแก่ระบบโซล่าเซลล์ที่มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้าสูง ราคาคอนโทรลชาร์จเจอร์ mppt จะสูงกว่า 2-3 เท่าของราคาคอนโทรลชาร์จเจอร์ pwm ขนาดของโซล่าชาร์จเจอร์ที่นิยมใช้ของทั้ง 2 แบบนั้น มีตั้งแต่ 10A – 100A ซึ่งควรเลือกตามแรงดัน Input ขนาด 12 โวลต์ (12V), 24V, 48V และ 96V