หมวดหลอดไฟแอลอีดี

หมวดหลอดไฟแอลอีดี

                   หลอดไฟแอลอีดี ประโยชน์และคุณค่าที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเพียงแค่การประหยัดเงิน

หลอดไฟแอลอีดี ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน  และมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปได้อีกไกลในอนาคตค่ะ โดยมีการคาดการณ์ว่าอีก 5 ปีข้างหน้านั้น ทุกประเทศเทศในโลก จะหันมาใช้หลอดไฟแอลอีดี กันหมดทั่วทั้งโลกเลยทีเดียว

เพราะต่างก็เริ่มเห็นถึงความสำคัญของการใช้หลอด LED และมีความต้องการที่จะรักษาทรัพยากรเชื้อเพลิงของโลกเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟชนิดใหม่นั้นก็จะส่งผลดีให้กับการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงของประเทศไทยของเราได้อย่างแน่นอนนะคะ เราทุกคนจึงควรตระหนักและหันมาใส่ใจ ช่วยกันมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประเทศชาติกันคนละไม้คนละมือค่ะ

         ในปัจจุบันนี้กระแสการประหยัดพลังงานนั้นกำลังได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเลยนะคะ เพราะทรัพยากรในธรรมชาติของโลกอันสวยงามของเรากำลังลดน้อยลงทุกที ดังจะเห็นได้จากปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลกทั้งน้ำท่วม, แผ่นดินไหว, เปลือกโลกเคลื่อนตัว หรืออุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกในทางที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ จะมีวิธีใดบ้างที่เราสามารถช่วยรักษาพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติที่กำลังลดปริมาณลงอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี

การเริ่มต้นช่วยโลกด้วยวิธีง่ายๆอย่างการประหยัดน้ำและไฟในครัวเรือนของตัวเองก็เป็นอีกทางที่เราจะสามารถกอบกู้วิกฤตของโลกได้นะคะ อย่างเช่นการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบใหม่จำพวก LED แทนหลอดไฟแบบเดิม บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่มันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมหาศาลเชียวนะคะ แค่การเปลี่ยนหลอดไฟง่ายๆนี่ล่ะค่ะ

ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกันมากกับเรื่องนี้มากค่ะ สังเกตได้จากประเทศออสเตรเลีย และหลายๆประเทศได้มีการสั่งห้ามใช้และเลิกผลิตหลอดไฟแบบเก่าที่เป็นหลอดไส้ไปเรียบร้อยแล้วทั้งนี้อาจเป็นเพราะค่าไฟฟ้าที่ใช้กันในประเทศออสเตรเลียนั้น มีราคาแพงกว่าค่าไฟในบ้านเรากว่า 8 เท่าตัวเลยล่ะค่ะ คนไทยอย่างพวกเรานั้นนับว่าโชคดีมากที่ได้ใช้ทรัพยากรเชื้อเพลิงในราคาถูก ทำให้ต่างชาติจึงพากันมองว่าคนไทยจึงไม่ค่อยใส่ใจเรื่องของการประหยัดพลังงานกันสักเท่าไหร่

LED คืออะไร?

เรามาทำความรู้จักกับหลอดไฟแอลอีดี กันสักหน่อยดีกว่าค่ะ

 ชื่อภาษาอังกฤษว่า Light-emitting diode หรือเรียกย่อๆว่า LED ซึ่งแปลตรงตัวว่า ไดโอดเปล่งแสงค่ะ

ซึ่งเป็นชิ้นส่วน อิเลคทรอนิกส์ ชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถเปล่งแสงสว่างได้เมื่อมีกระแสไฟไหลผ่าน โดยความพิเศษของมันอีกอย่างก็คือ ใช้กระแสไฟฟ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถส่องแสงสว่างออกมาได้แล้วค่ะ แถมยังสว่างกว่าหลอดไฟแบบเดิมๆอีกด้วย

หลอดไฟแอลอีดี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. สำหรับใช้ภายในอาคาร

2. สำหรับใช้ภายนอกอาคาร

3. สำหรับการตกแต่ง

กำเนิดและที่มาของ LED

นวัตกรรมของหลอดไฟแอลอีดี นี้ ได้กำเนิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 และเริ่มเป็นที่สนใจจริงๆก็ในปี ค.ศ. 1996 และด้วยความที่เริ่มเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์อันหลากหลาย และประสิทธิภาพที่ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างดีเยี่ยม จึงเริ่มมีการคิดค้นและเกิดการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันค่ะ

โดยในช่วงแรกนั้น เราได้นำมาใช้ครั้งแรกเพื่อการบ่งบอกสัญญาณ (Indicator light) สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆค่ะ เพื่อบอกถึงสถานะของตัวเครื่อง เช่น นาฬิกา เครื่องคิดเลข รีโมทคอนโทรล เครื่องเล่นวิดีโอและกระติกน้ำร้อน ด้วยความที่หลอดไฟแอลอีดี นั้นมีขนาดเล็กจิ๋ว และมีเพียงสีร้อนๆ อย่าง สีแดง สีส้ม สีเหลือง ต่อมาจึงได้มีการพัฒนาสร้างให้มีสีโทนเย็นบ้าง อย่างสีเขียวและสีน้ำเงิน จนกระทั่งได้เป็นสีขาว จึงเริ่มมีการคิดนำมาใช้แทนหลอดไฟอย่างจริงจังในที่สุด รวมทั้งยังสามารถผสมสี RGB ทำให้สามารถสร้างสีสันเพื่อเติมเต็มจินตนาการแห่งการสร้างสรรค์ในเชิงสถาปนิก เพื่อนำมาใช้ประดับตกแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอกอาคารรวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆได้อีกมากมายไม่รู้จบ

ข้อดีและคุณประโยชน์ของหลอดไฟแอลอีดี 

หลอดไฟแอลอีดี มีจุดเด่นที่น่าใช้กว่าหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนส์ธรรมดาทั่วๆไปก็คือ ใช้พลังงานต่ำและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานค่ะ ทั้งยังมีความทนทาน และด้วยความที่มีขนาดเล็ก ทำให้สามารถนำไปดัดแปลงใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและหลากหลายมากๆ เช่น การติดตั้งในรถยนต์ เครื่องบิน ป้ายโฆษณา สัญญาณไฟจราจร ตู้ปลาโดยเฉพาะตู้ปะการังที่ให้แสงและอุณหภูมิที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการเจริญเติบโตของปะการังได้ดีอีกด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังเหมาะกับใช้เป็นไฟบนเวทีและห้องผ่าตัดอีกด้วยโดยข้อดีของหลอดไฟแอลอีดีนั้น สามารถจำแนกได้เป็นข้อๆดังนี้ค่ะ

1. ประหยัดพลังงาน เพราะให้แสงสว่างมาก แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อย โดยไฟฟ้าน้อยกว่าหลอดไส้ทั่วไปถึง 80-90%

2. ช่วยประหยัดไฟในห้องแอร์ได้ โดยช่วยให้เครื่องปรับอากาศในห้องทำงานน้อยลง เพราะอุณหภูมิที่ออกมาจากหลอดแอลอีดี นั้นไม่สูง ไม่ร้อน จึงไม่รบกวนการทำงานของเครื่องปรับอากาศในห้องค่ะ

3. แสงที่ออกมาจากหลอดไฟชนิดนี้ ไม่ทำให้เคืองตาและช่วยถนอมสายตา ทั้งยังเหมาะกับการอ่านหนังสือด้วยค่ะ

4. อายุการใช้งานที่ยาวนาน กว่า 35,000 - 50,000 ชั่วโมง หรือเฉลี่ยประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานค่ะ เช่น ถ้าเราใช้ในบ้านเองหรือสำหรับโรงงานที่มีการเปิดไฟเพียงวันละ 8-12 ชั่วโมง ก็จะยิ่งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

5. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าเพราะไม่มีสารปรอทเจือปนเหมือนกับหลอดประเภทอื่น และยังย่อยสลายง่ายกว่า เพราะตัวหลอดไฟนั้นผลิตจากพลาสติกและโพลีเมอร์ 

6. ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า จึงสามารถช่วยลดปริมาณขยะจากการทิ้งหลอดไฟลงด้วย

7. มีความทนทานต่อแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน ไม่เปราะแตกง่าย จึงนิยมติดตั้งกันมากบนเครื่องบินและรถยนต์ 

8. แสงที่ส่องสว่างนั้น ปล่อยความร้อนออกมาน้อยมาก โดยแสงสว่างที่ออกมาจะให้อุณหภูมิที่ไม่สูงเหมือนหลอดไส้ทั่วๆไป

9. ไม่มีชิ้นส่วนที่เป็นแก้ว กระจก ที่อาจเป็นอันตรายเมื่อแตกหัก

10. สามารถเปิด-ปิด ได้รวดเร็ว ติด-ดับ ทันใจ เพราะไม่ต้องมีการสะสมพลังงานหรือตัวช่วยสตาร์ทแบบหลอดฟลูออเรสเซนส์อีกทั้งยังไม่มีอาการกระพริบ แถมยังไม่มีความเสื่อมเกิดขึ้นจากการเปิดปิดสวิทช์บ่อยๆ

11. ให้แสงสว่างคงที่ต่อเนื่อง และมีการกระจายแสงที่เหมาะสม

12. ไม่มีรังสี UV ซึ่งก็แปลว่าแสงที่ออกมานั้น จะไม่รบกวนดวงตาและไม่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

13. สามารถเปลี่ยนและติดตั้งได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนขั้วหลอด

ข้อเสีย ของหลอดไฟ LED

สำหรับข้อเสียนั้นมีเพียงข้อเดียว ก็คือ มีราคาที่แพงกว่าหลอดฟลูออเรสเซนส์ทั่วไปค่ะ (แต่ถ้าคำนวณกันจริงๆแล้วเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่ามากค่ะ เพราะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าหลายเท่าตัว) 

ใครและกิจการใดบ้างที่เหมาะกับหลอดไฟ LED

-กิจการร้านอาหารและโรงแรมที่จำเป็นต้องเน้นเรื่องคุณภาพและองศาของแสงไฟเพื่อทำให้สถานที่ดูสวยงาม

-ร้านค้าปลีก ที่ต้องการใช้แสงสว่างเพื่อแสดงสินค้าและต้องเปิดใช้ไฟอย่างต่อเนื่อง

-โกดังสินค้า ที่ต้องใช้แสงสว่างที่เพียงพอและต่อเนื่องยาวนาน

-บริษัทหรือออฟฟิศ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ความสบายตาของพนักงานและยังช่วยประหยัดค่าเครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย

-บ้านที่พักที่อยู่อาศัย เป็นตัวเลือกที่ดีที่สามารถลดค่าใช้จ่ายและยังทำให้สภาพแวดล้อมภายในบ้านดูสวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

เทคนิคการเลือกซื้อหลอดไฟ LED

1.         พิจารณาโคมไฟที่ใช้ว่ามีขั้วรับหลอดแบบใด และระบบวงจรไฟฟ้าอย่างไร เช่น หม้อแปลง สวิตช์หรี่ไฟ เป็นต้นอาจเป็นแบบที่มีอุปกรณ์ติดมาพร้อมกับโคมหรือแยกต่างหาก

2.         เลือกดูจากรูปทรงและขนาดให้ตรงกับการใช้งานของเรา และให้เลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน

3.         ศึกษาคุณภาพของหลอดไฟว่ามีมาตรฐานที่เชื่อถือได้

4.         พิจารณาปริมาณแสงสว่าง และลักษณะการกระจายของแสงให้ตรงกับความต้องการของเรา

5.         พิจารณาคุณสมบัติต่างๆ เช่น กำลังไฟฟ้าที่ใช้ ประสิทธิภาพของหลอดไฟ อายุการใช้งาน ความทนทานและคงเส้นคงวาของแสงสว่าง

การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดี นั้น นอกจากจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของพวกเราแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้อีกทางด้วยนะคะ เพราะหากบ้านหลังหนึ่งเปลี่ยนมาใช้หลอดชนิดนี้ทุกดวงทั้งหลัง และทุกๆบ้าน ก็จะช่วยลดภาระการใช้พลังงานของประเทศไปได้มากเลยทีเดียว โดยล่าสุดนี้ทาง กฟฝ. ก็เริ่มเห็นความสำคัญของหลอดไฟแอลอีดี และเริ่มออกมารณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนอย่างเราๆหันมาใช้หลอดไฟชนิดใหม่นี้แทนหลอดไฟแบบเดิมๆ 

เห็นไหมล่ะคะ ว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะคะ แค่เพียงเปลี่ยนประเภทหลอดไฟเท่านั้น ก็สามารถส่งผลต่อเศรษฐกิจบ้านเมือง และช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติไปได้เยอะเลยทีเดียว

การกระทำเล็กๆน้อยๆของพวกเราจะกลายเป็นกำลังอันสำคัญของชาติได้ อย่างไม่ลำบากยากเย็นอะไรเลยนะคะ เพียงแค่คิดที่จะร่วมมือร่วมใจกัน ช่วยกันประหยัดและรู้จักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยเราและของโลกใบใหญ่ที่สวยงามของเราใบนี้เพื่อลูกหลานอันเป็นที่รักในอนาคตของพวกเราทุกคนจะสามารถได้รับมรดกที่พวกเราช่วยกันเก็บรักษาเอาไว้ รู้จักใช้สอยทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัดและรู้คุณค่าของทุกสิ่งทุกอย่างที่โลกให้กับเรา

เปลี่ยนหลอดไฟครั้งหน้า เลือกหลอดไฟแอลอีดี เท่านั้นนะคะ เพื่อตัวเรา เพื่อประเทศชาติ และเพื่อโลกใบสวย ของพวกเราทุกคนค่ะ